แหล่งศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ
ทุ่งกะมัง
เป็นที่ราบทุ่งหญ้ากว้างใหญ่กลางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ลักษณะคล้ายแอ่งกะละมังอยู่กลางผืนป่า จึงเป็นที่มาของชื่อ ทุ่งกะละมัง หรือ ทุ่งกะมัง เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงต้องการให้มีการอนุรักษ์สัตว์ป่า และนำสัตว์ป่ากลับคืนถิ่น เช่น เก้ง กวาง กระจง และนกต่าง ๆ มีการจัดทำดินโป่งในบริเวณทุ่งกะมังเพื่อให้สัตว์มากินดินโป่งและเผา แปลงทุ่งหญ้าเพื่อให้เกิดหญ้าระบัดเป็นอาหารของเก้ง กวางในช่วงฤดูแล้ง บนยอดเนินเหนือบริเวณทุ่งกะมัง มีพระตำหนักที่ประทับอยู่เหนือ อ่างน้ำ จนเกิดวลีหนึ่งที่ว่า “ภูเขียว บรมโพธิสมภารของสัตว์ป่า” ทุ่งกะมังถือเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของเหล่าเก้งกวาง และสัตว์ป่านานาชนิด มีการนำเอาดินโป่ง มาใส่ไว้เป็นจุดๆ เพื่อให้สัตว์ป่าได้มากิน จึงทำให้เราสามารถพบเห็น เหล่าบรรดาเนื้อทราย เก้ง กระจง ออกมาหา อาหารโดยเฉพาะในช่วงบ่ายจะพบเห็นได้มากที่สุด ในบางครั้งทุ่งหญ้าบริเวณนี้จะมีการเผาทั้งเกิดจากไฟป่าตามธรรมชาติ หรือ ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดทำขึ้นเพื่อให้เกิดการแตกยอดใหม่ของต้นหญ้า เป็นแหล่งอาหารให้เหล่าสัตว์ป่าเรื่อยไป เรียกวิธีนี้ว่า “ระบัด”
แหล่งดูนก
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูเขียวมีความแตกต่างจากแหล่งดูนกแห่งอื่นๆ ในภาคอีสาน คือมีแหล่งน้ำขนาดเล็กและใหญ่กระจายอยูเกือบทุกพื้นที่ ทั้งกลางทุ่งหญ้ากว้าง ตามชายป่า และในป่าลึก ที่นี่จึงสามารถพบนกได้หลากหลายประเภท ทั้งนกน้ำ นกทุ่ง และนกป่า ในส่วนของนกน้ำ นอกจากเป็ดแดง นกเป็ดผีเล็ก นกกวัก และนกอีล้ำ ยังพบนกน้ำขนาดใหญ่ เช่น นกกระทุง นกอ้ายงั่ว รวมทั้งนกชนิดที่หายากอย่างเช่น นกกระสาดำ จุดเด่นอีกอย่างหนึงของภูเขียวคือ เป็นจุดที่สามารถพบเห็นนกป่า ซึงพบได้มากทั้งชนิดและจำนวน เช่น นกกระทาดงอกสีน้ำตาล นกแต้วแล้วใหญ่หัวสีน้ำตาล ขณะที่อีกหลายชนิดมีความสำคัญและถูกจัดให้เป็นนกเฉพาะถิ่นในระดับภูมิภาค ซึ่งมีถิ่นแพร่กระจายพันธุ์อยู่เพียงไม่กี่ประเทศในโลก นั่นคือ ไก่ฟ้าพญาลอ นกโกโรโกโสช่วงเวลาที่ดีและมีจำนวน ชนิดของนกให้ดูมาก ที่สุดคือช่วงฤดูหนาว
จุดชมวิวปางม่วง
ตั้งอยู่ก่อนเข้าด่านเก็บเงินของเขตฯ ถือเป็นจุดชมวิวที่งดงามเห็นทิวทัศน์ของป่าอันเขียวขจีรวมถึงบางวันก็จะได้เห็นทะเลหมอก มีทิวทัศน์ที่เห็นเบื้องหน้าประกอบไปด้วยเทือกเขาน้อย ใหญ่กว้างไกลสุดสายตา จากป้ายสื่อความหมายเบื้องหน้าทำให้ทราบว่า ภูเขาสูงยอดตัดที่สูงกว่าลูกอื่นๆ นั้น คือ ภูผาจิต ถัดมาทางขวาตรงที่เห็นเป็นร่องเขานั้น สุดปลายสายตาคือ ภูกระดึง
แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ
ลำน้ำพรม
ไหลคดเคี้ยวอยู่ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวทางด้านเหนือด้านทิศตะวันออกมีลำห้วยดาดหรือลำโดกเป็นห้วยสายหลักที่ทำให้น้ำพรม ตอนล่างจากเขื่อนจุฬาภรณ์ซึ่งผันน้ำลำน้ำพรมเดิมไป ผลิตกระแสไฟฟ้า ไหลออกสู่พื้นที่บริเวณลำสุ มีน้ำไหลตลอดปี บนลำน้ำพรม มีลานจันทร์ซึ่งประกอบด้วยลานหิน วังน้ำลึกที่คดเคี้ยว ดูสงบ ร่มรื่น
ลานจันทร์และตาดหินแดง
ลานจันทร์มีลักษณะเป็นลานหินกว้างในลำน้ำพรม มีน้ำไหลผ่านตลอดปี เป็นบริเวณร่มรื่นไปด้วยพันธุ์ไม้ใหญ่น้อยเพราะมีป่าดิบขึ้นอยู่รอบ ๆ มีพวกมอส เฟิร์น หวาย พลู และว่านต่าง ๆ หลายชนิด ถ้าเดินเรียบไปตามลำน้ำจะพบหินสีแดง ซึ่งเป็นบริเวณที่เรียกว่า ตาดหินแดง ทั้งลานจันทร์และตาดหินแดง เหมาะสำหรับพักผ่อนร่มรื่นและสวยงาม
บึงแปน
มีเนื้อที่ประมาณ 4,000 ไร่ สูงจากระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ย 900 เมตร สภาพภูมิประเทศทุ่งหญ้าคล้ายทุ่งกะมัง แต่มีลักษณะเป็นทุ่งราบเรียบ และอยู่ในที่ลุ่มต่ำมีน้ำเจิ่งนองในฤดูฝน ในฤดูแล้งมีหนองน้ำอยู่กลางทุ่ง บึงแปนตั้งอยู่กลางพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตวป่าภูเขียวค่อนไปทาง ตะวันตกเฉียงใต้ เป็นบริเวณที่มีสัตว์ป่าชุกชุม สังเกตได้จากมีร่องรอยด่านสัตว์มากมาย
น้ำตกตาดคร้อ
เป็นน้ำตกสูงใหญ่อยู่ทางทิศใต้ของทุ่งกะมัง ใกล้กับศูนย์พิทักษ์ป่าภูเขียวที่อำเภอหนองบัวแดง น้ำจากน้ำตกจะไหลลงสู่ลำน้ำสะพุง
น้ำตกห้วยหวายอยู่ห่างจากบึงแปน 6 กิโลเมตร เป็นน้ำตก 3 ชั้น สูงชั้นละ 20 เมตร ตรงบริเวณช่องเขาขาด อยู่ระหว่างเขาภูน้อย และเขาภูเขียวใหญ่
น้ำตกนาคราช
อยู่ระหว่างทางจากศาลาพรมไปทุ่งกะมัง บริเวณกิโลเมตรที่ 11 เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางในป่าอีก 300 เมตร ความกว้างของน้ำตกนาคราช ประมาณ 5 เมตร มีความสูงต่างระดับถึง 3 ชั้น ชั้นแรกสูง 14 เมตร ชั้นที่ 2 สูง 10 เมตร ชั้นที่ 3 สูง 6 เมตร บริเวณน้ำตกมี ว่านพญานาคราช ขึ้นอยู่จำนวนมากจึงตั้งชื่อว่า “น้ำตกนาคราช”
ผาเทวดา
เป็นภูเขาหลายเทือกติดต่อกัน ยาวประมาณ 6 กิโลเมตร ยอดผาสูงประมาณ 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทางทิศตะวันตกและ ทิศตะวันออกเป็นเทือกเขายาว หินผาเทวดามีสีขาวคล้ายหินปูน มีน้ำไหลผ่านเรียกว่า “ชีผุด” เป็นต้นน้ำของแม่น้ำชี มีความกว้างประมาณ 10-15 เมตร ไหลทะลุออกมาทางทิศใต้ของเขาเทวดาแล้วไหลลงชีใหญ่ที่บ้านโหล่น ลำชีจะไหลจากเหนือไปใต้ สองข้างฝั่งมีลักษณะ เป็นหินกรวดก้อนเล็ก ๆ ชีผุดมีน้ำที่ใสมากถึงประมาณ 1 เมตร สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ได้แก่ กระทิง หมี เม่น กวาง และช้างป่า ตรงหุบเหวและเทือกเขาเทวดาเป็นป่าค่อนข้างแน่นทึบเรียกว่า ป่าครอบ มีลำชีไหลผ่านกลางป่าและมุดเข้าไปในเชิงเขา เรียกว่าชีดั้นและ ชีผุดมีถึง 3 ชั้น ชีดั้นแห่งแรกคือ เขาถ้ำครอบ ลำน้ำไหลหายเข้าไปในถ้ำประมาณ 500 เมตร แล้วผุดออกไปประมาณ 300 เมตร จึงหาย เข้าไปในเขาไกลถึง 8 กิโลเมตร สุดท้ายหายเข้าไปในเขาไกลอีก 1 กิโลเมตร จึงผุดออกมาที่ทับกกเดื่อซึ่งอยู่ห่างจากบ้านโหล่น ประมาณ 10 กิโลเมตร พันธุ์ไม้ส่วนใหญ่เป็นตะเคียน ยาง พะยอม ไผ่ ไม้พื้นล่างมี หวาย ตาว สัตว์ป่า เช่น ช้าง หมี เสือ กวาง เม่น และมีนกกาฮัง อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ในบริเวณป่าครอบนี้มีน้ำตก 7 ชั้นอยู่บนเทือกเขาเทวดา เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวไหลลาดลงตาม ทางยาวแต่ละชั้น สูง 15-20 เมตร รวมทั้งสิ้นสูงประมาณ 200 เมตร กว้างประมาณ 20-25 เมตร
บ้านพักเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว
การติดต่อจองบ้านพักต้องโทรมาติดต่อกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯจากนั้นทำหนังสือขออนุญาตล่วงหน้า 15–30 วัน โดยส่งไป ที่อีเมล์ pkws 2549@gmail.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร 084 334 0043 บ้านพักของเป็นอาคารไม้ทั้งหมดมีพื้นที่ กางเต้นท์ไว้รองรับด้วย โดยราคาบ้านพักแล้วแต่นักท่องเที่ยวจะให้โดยให้ตามความเหมาะสมตามจำนวนคน ในส่วนของอาหาร ถ้าไม่ได้เตรียมมาเองมีบริการครัวสวัสดิการโดยต้องแจ้งล่วงหน้าตอนจองห้องพักทางแม่ครัวจะเตรียมรายการอาหาร ให้เองตามความเหมาะสม ส่วนค่าอาหารนั้นคิดเป็นรายมื้อต่อหัว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวมีไฟฟ้าให้ใช้แค่เวลา 18.30 – 21.30 น. ควรเตรียมไฟฉายหรือแบตเตอรี่โทรศัพท์และกล้องมาให้พร้อม
กลุ่มนักท่องเที่ยว
เวลาทำการ
ราคาค่าเข้าชม
ข้อมูลแนะนำ
ข้อมูลที่พักในแหล่งท่องเที่ยว
ข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวก
ระบบกำจัดขยะ
ระบบไฟฟ้า
ระบบน้ำใช้
ระบบรักษาความปลอดภัย
ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ / นิเวศ
02 283 1500
เลขที่ 4 ถนนราชดำเนินนอก แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 10100
จันทร์ - ศุกร์ (เวลาราชการ)